Powered By Blogger
Custom Search

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

คืนสภาพ (System Restore)การเปลี่ยนแปลง


***การ System Restore การเปลี่ยนแปลงของ Windows

การใช้คอมพิวเตอร์ส่วนมาเรามักจะเปลี่ยนแปลงส่วนต่าง ๆ

ในเครื่องไปเรื่อย เช่น การปรับตั้งค่า หรือการติดตั้งโปรแกรม

ลงไปใหม่ ในบางครั้งอาจได้ผลที่ไม่เป็นไปตามความต้องการ

และอาจมีผลร้ายแรงต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เช่นเครื่อง

ไม่ทำงานไปเลยแม้จะทำการลงโปรแกรมนั้น ๆ ไปแล้วก็ตาม

แต่ก็ยังเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบตามมาโดยแก้ไขอะไรไม่ได้

***ด้วยเหตุนี้ใน Windows XP จึงได้ทำการเพิ่มโปรแกรม

System Restore มาให้เป็นตัวช่วยในการคืนสภาพหรือ

ยกเลิกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยโปรแกรม System Restore

จะทำการย้อนไปยังจุดเดิมที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา

เคยทำงานได้เป็นปรกติ

***การทำ System Restore นั้นจะอาศัยการ Checkpoint

หรือจะคืนค่า ซึ่งเป็นจุดหรือเวลาที่ Windows จะ copy

หรือเก็บค่าต่าง ๆ ในระบบเอาไว้และเมื่อเราต้องการคืนสภาพ

กลับไปอยู่ ณ จุดใดก็เพียงแค่นำค่าที่ก็อปปี่หรือที่เก็บค่านั้น

ไว้ให้นำกลับมาใช้ใหม่

***สำหรับจุดคืนค่านี้ Windows จะเป็นผู้จัดทำให้เองโดยอัตโนมัติ

และจะสร้างจุดคืนค่าในระยะเวลาดังนี้

1.ทุก 24 ชั่วโมง(ถ้าเปิดเครื่องค้างไว้จะครบ)

2.ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของระบบ

เช่นการติดตั้งไดรเวอร์หรือการติดตั้งโปรแกรมเพิ่ม

3.ตามเวลาที่เราสั่งให้สร้างขึ้นเอง

***แต่การ restore นี้จะไม่มีผลในการลบไฟล์ที่คุณสร้างขึ้น

หรือทำการดาวน์โหลดมาในระหว่างนั้น เพราะฉะนั้นการ

Restore จะไม่ช่วยในการกู้คืนไฟล์ที่คุณได้ทำการลบ

ไปโดยไม่ตั้งใจด้วยเช่นกัน

***ที่ผมใช้การ Restore ส่วนมากจะเป็นเพราะว่าเมื่อทำการ

เล่นเกมส์มาก ๆ หรือดาวน์โหลดของที่ไม่จำเป็นมาใช้

แล้วเครื่องเกิดมีปัญหาตามก็จะใช้การ restore นี่แหละ

ในการคืนกลับไปสู่จะเดิมที่เครื่องเคยใช้งานได้เป็นปรกติ

ลองทำดูนะครับง่ายและไม่เสียเวลาอีกอย่างถ้ายกไปซ่อม

ก็คงต้องเสียเงินลองก่อนไม่ได้ค่อยออกไปเสียเงินทีหลัง

ก็ได้ สวัสดีครับ

วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554

การจัดการกับ Memory


***การที่เราเปิดโปรแกรมขึ้นมามาก ๆหรือ

จำนวนมาก ๆ บางคนเล่นเน็ตอยู่ดี ๆก็มีโปรแกรม

บางตัวถูกโหลดขึ้นมาแบบเงียบๆ ซึ่งอาจะเป็น

Service ของเครื่องขณะที่เปิด Windows เข้ามา

มีผลทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง

ด้วยเหตุที่โปรแกรมต่าง ๆ เหล่านั้นได้เข้า

ไปใช้งานหรือจองพื้นที่ในหน่วยความจำ

Memory ไว้และเมื่อในขณะที่คุณกำลังเปิด

โปรแกรมตัวใหม่ขึ้นมาใช้งาน บางครั้งคุณ

จะพบข้อความว่า “Out of Memory” ขึ้นมา

ทำให้ไม่สามารถเปิดโปรแกรมขึ้นมาใช้งานได้

และในบางกรณีที่มีโปรแกรมบางตัวที่มีอาการ

แฮงค์(หรือหยุดทำงาน)ไปแล้วแต่คุณไม่สามารถ

ปิดการทำงานของโปรแกรมนั้นลงได้ด้วยวิธีอื่น

ก็ลองมาใช้วิธีนี้ทำการปิดโปรแกรมดู

***โดยภายในแท็บของ Processes ของ

Windows Task Manager นั้นเราสามารถใช้ตรวจสอบ

การใช้หน่วยความจำของโปรแกรมต่าง ๆ ว่าแต่ละตัว

ใช้หน่วยความจำมากน้อยเท่าไหร่ และสามารถ

จัดลำดับการใช้งานจากมากไปหาน้อย หรือ

จากน้อยไปหามากได้ จึงทำให้เราสามารถ

บริหารจัดการหน่อยความจำได้

***ลองเข้าไปตรวจสอบดูแล้วจัดลำดับกันใหม่

ถ้าไม่แน่ใจก็ลองสอบถามผู้ที่ใช้งานคอม

ได้คล่องแล้วทำดูเพราะถ้าเราเผลอไป

กดผิดเข้าอาจทำให้เราไม่สามารถเปิดเครื่อง

ได้และต้องทำการรีบู๊ตกันใหม่

บทความที่ได้รับความนิยม