Powered By Blogger
Custom Search

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

ประเภทของหน่วยความจำ (Memory)


****หน่วยความจำ หรือ Memory มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ

ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่จะแสดงผลลัพธ์ หรือ ข้อมูลที่จะนำมาประมวลผล

ในปัจจุบันหน่วยความจำมีให้เลือกหลายประเภทดังนี้

1. แรม (RAM) คือหน่วยความจำชั่วคราวของคอมพิวเตอร์ที่ทำงาน

ได้รวดเร็วแต่ทุกครั้งที่เราปิดเครื่องข้อมูลทุกอย่างจะหายไป

ในการทำงานที่หนักหรือต้องใช้หน่วยความจำมาก ๆ คุณจึง

จำเป็นที่จะต้องเพิ่มแรมอย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่า 24 GB ขึ้นไป

เครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะทำงานได้เร็วขึ้น

2. ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) เป็นหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์

ใช้สำหรับเก็บข้อมูลต่าง ๆไว้ในนี้ ข้อมูลต่าง ๆ จะยังอยู่ในเครื่องแม้

ว่าเราจะปิดเครื่องไปแล้ว แต่จะเก็บได้มากหรือน้อยก็แล้วแต่ว่า

เรามีความจุของ ฮาร์ดดิสก์ อยู่ที่เท่าไหร่ ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรเครื่อง

คอมพิวเตอร์ของคุณควรมีความจุ ฮาร์ดดิสก์ อยู่ที่ประมาณ 500 GB

ขึ้นไป

3. แผ่น CD/DVD เป็นหน่วยความจำอีกรูปแบบหนึ่งใช้เก็บข้อมูลได้

ประมาณ 700 MB ต่อแผ่น ใน CD หนึ่งแผ่น แต่ในส่วนของ

DVDจะเก็บข้อมูลได้ 4.5 GB ดังนั้นจึงนิยมใช้เก็บเอกสาร เพลง

ภาพถ่าย หรือ ภาพยนตร์กัน

4. แฟลชไดรว์ (Flash Drive) จะเป็นหน่วยความจำขนาดเล็ก

และมีราคาที่ถูก ง่ายต่อการพกพา ถ้าจะเลือกควรเลือกที่

มีราคาสักหน่อยเพราะอย่างน้อยก็จะได้ระบบป้องกันพวก

ไวรัสและสปายแวร์ได้

***การเลือกใช้งานของหน่วยความจำก็แล้วแต่วัตถุประสงค์

หรือความสำคัญในงานนั้น ๆ ดังนั้นรู้ไว้บ้างก็จะได้เป็นความรู้

อีกอย่างที่เราอาจนำไปใช้ได้ในอนาคต ต้องไม่ลืมว่าขนาดความจุ

ของหน่วยความจำนั้นสำคัญมาก เมื่อซื้อครั้งต่อไปเพิ่มเงิน

อีกนิดดีกว่าต้องมาเพิ่มกันที่หลัง สวัสดีครับ

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

เรื่องของ License


***เรื่องของ License –แบบ OEM กับแบบ Retail (Box)

ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟต์นั้นมีการขาย “ใบอนุญาตให้ใช้งาน”

(License) หรือที่เราเรียกกันว่า “ลิขสิทธิ์” มีอยู่ 3 แบบใหญ่ ๆ

โดยไม่รวมแบบ Open License หรือ Multiple Open License

Pack (MOLP) ที่ใช้กับองค์การใหญ่ ซื้อทีละหลาย ๆ ชุดคือ

1. แบบ Retail โดยแบบนี้จะใส่กล่องวางขายตามร้าน โดย

1 กล่องก็คือ 1 License คือจะใช้กี่ชุดก็ซื้อเท่านั้น ซึ่งจะ

แพงกว่าแบบอื่น ที่เป็นข้อดีคือความง่าย คือเราสามารถ

ใช้ซอฟต์แวร์ตัวนี้กับเครื่องไหนก็ได้คือสามารถติดตั้งลงไป

ในเครื่องนั้นได้เลย และสามารถย้ายการใช้งานจากอีกเครื่อง

หนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งได้เลย แต่ต้องเลิกใช้และลบออกจาก

เครื่องเดิมก่อน

2. แบบ OEM ตัวนี้จะมีราคาถูกกว่าตัว License ตัว OEM ย่อมาจาก

Original Equipment Manufacturer หมายความว่าผู้ผลิต

หรือผู้ประกอบเครื่องซีพีออกมาขายนั้นก็ทำแต่ตัวเครื่องไม่ได้

ทำโปรแกรมอย่าง Windows แต่ไปซื้อโปรแกรมจากไมโครซอฟต์

มาใส่ลงในเครื่องของตนและส่งออกขาย นั้นก็คือเมื่อมาจาก

เครื่องไหนก็ต้องใช้กับเครื่องนั้นตลอดไป ห้ามย้าย คือเมื่อเครื่อง

พังโปรแกรมนั้นก็จบไปด้วย

บทความที่ได้รับความนิยม